รู้สักนิด! ก่อนคิดรักษาฝ้า กระ
รู้สักนิด! ก่อนคิดรักษาฝ้า กระ
ปัญหาเม็ดสีหลักๆ 2 ชนิด คือกระและฝ้า ปัญหาทั้ง 2 ชนิดนี้ จัดว่าเป็นความผิดปกติของเม็ดสีในชั้นผิวหนัง มักเกิดในบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดด
“กระ” เป็นความผิดปกติของเม็ดสีที่เข้มขึ้น มีขนาดเล็กกว่า 0.5มม. ส่วน “ฝ้า” ลักษณะจะเป็นปื้นคล้ำเรื่อๆ มักพบในเพศหญิงวัยกลางคน มีสาเหตุหลักมาจากแสงแดดและฮอร์โมนร่วมกัน
วิธีการรักษาฝ้า, กระนั้น มีหลายวิธีด้วยกัน อาทิเช่น
– การทำให้ฝ้าหรือกระบางลงด้วยการผลัดเซลล์ผิว ร่วมกับการทายา Whitening ที่แพทย์เป็นผู้แนะนำ
– การฉีดยารักษา โดยเทคนิค Meso Therapy และทรีตเมนต์เพื่อบำรุงผิว (Electroporation) เพื่อผลักยา Whitening ลงในชั้นผิวที่มีความผิดปกติของเม็ดสี โดยมากมักทำเพื่อรักษาปัญหาฝ้าและกระในชั้นลึก
– การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาฝ้า กระโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจัดว่าได้ประสิทธิผลดี โดยเลเซอร์ที่ปลอดภัยสูงสุดในขณะนี้คือ Q-Switch Nd:Yag
ข้อสำคัญของการรักษาด้วยเลเซอร์นั้นคือ ต้องเป็นการรักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เลือกเครื่องมือที่ปลอดภัย ปรับตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสม ทั้งนี้เครื่องเลเซอร์ต้องให้กำเนิดพลังงานที่เสถียร (Homogenous) และมีการทำความเย็นที่ผิวชั้นบน เพื่อให้อุณหภูมิของผิวหนังเอื้อต่อการรักษาให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
การเลเซอร์สำหรับกำจัดกระตื้น ณ ชั้นหนังกำพร้า เมื่อยิงแล้วกระตื้นจะหลุดล่อนออกในทันที ภายใน 1 ครั้งที่ยิงเลเซอร์เท่านั้น โดยเกิดเป็นสะเก็ดเล็กๆ โดยที่ไม่มีแผล
ส่วนการเลเซอร์กำจัดกระลึกนั้น จะไม่เกิดสะเก็ด และต้องยิงซ้ำเพื่อให้ค่อยๆกำจัดเม็ดสีออกไปทีละส่วน
ส่วนการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์นั้น ไม่ควรที่จะยิงครั้งเดียวให้ตกสะเก็ด เนื่องจากฝ้าเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ยากต่อการดูแลผิวหลังรักษา ควรเว้นห่างกันนาน 4-6 สัปดาห์ ทำซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง
www.facebook.com/MAYRISAclinic
Line ID @mayrisaclinic (มี @)
YouTube Channel : Mayrisa Clinic